โคมไฟดาวน์ไลท์ ตัวเลือกยอดนิยมที่ถูกนำมาติดตั้งภายในที่พักอาศัย ที่สามารถเลือกติดตั้งได้หลากหลายลักษณะ ทั้งแบบซ่อนบนฝ้า หรือการติดแบบลอยตัว อีกทั้งยังสามารถปรับแสงให้เป็นไปในทิศทางที่เราต้องการได้อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่รูปแบบไฟดาวน์ไลท์ในปัจจุบันมีให้เลือกอย่างหลากหลาย จนทำให้หลายคนเกิดความสับสน เพราะไม่รู้ว่าควรเลือกอย่างไรให้เหมาะสมกับการใช้งานภายในบ้าน ในบทความนี้เราจึงมีเทคนิคการเลือกมาฝากกัน ที่คุณสามารถนำไปปรับใช้ได้


ไฟดาวน์ไลท์ ทางเลือกเพื่อบ้านที่น่าอยู่ยิ่งกว่า!

ไฟดาวน์ไลท์ (Downlight Luminaire) คือโคมไฟที่ให้แสงแบบ Task Lighting เหมาะสำหรับการใช้งานแบบเน้นพื้นที่โดยเฉพาะ ด้วยลักษณะการให้แสงสว่างจะเป็นแบบส่องลงด้านล่าง และมีการกระจายแสงที่แคบ จึงทำให้เหมาะกับการนำไปติดตั้งแบบเน้นเฉพาะจุด สร้างความสวยงามในบริเวณนั้น ๆ และสามารถควบคุมระดับความสว่างตามความเหมาะสมในการใช้งานได้

ประเภทของไฟดาวน์ไลท์

• ไฟดาวน์ไลท์แบบฝังใต้ฝ้า (Recessed Downlight) เป็นประเภทที่ถูกออกแบบมาให้ติดตั้งแล้วดูกลมกลืนไปกับฝ้า เพราะตัวโคมจะถูกฝังเอาไว้อย่างมิดชิดจนเหลือเพียงแต่หน้าโคม ส่งผลให้แสงสว่างที่ได้จะมีความนวล และสบายตามากกว่า โดยส่วนมากจะนิยมใช้ภายในบ้าน คอนโด ร้านอาหาร อาคารสำนักงาน และโรงแรม
• ไฟดาวน์ไลท์แบบติดลอย (Surface Downlight) เป็นประเภทที่เหมาะสำหรับการใช้เป็นไฟหลัก ส่วนมากจะเน้นงานออกแบบไฟเพื่อความสวยงาม ตอบโจทย์การติดตั้งแบบอเนกประสงค์ เป็นได้ทั้งโคมไฟและของตกแต่งไปในตัว นิยมนำไปติดตั้งแบบลอยตัว เห็นโคมชัดเจน แถมยังมีหลากหลายดีไซน์ให้เลือกซื้อ
• ไฟดาวน์ไลท์แบบห้อยเพดาน (Pendant Luminaire) คือโคมที่ติดตั้งแบบมีสายห้อยลงมาจากฝ้าเพดาน ถูกออกแบบให้มีลักษณะสวยงามและรูปทรงที่กลมกลืนไปกับสไตล์ของพื้นที่เป็นหลัก มาพร้อมกับรูปแบบของแสงที่หลากหลาย
• ไฟดาวไลท์แบบฝังกึ่งลอย (Semi Recessed Downlight) เป็นโคมที่เหมาะสำหรับการติดตั้งกับทุกที่ แต่มีข้อจำกัดของพื้นที่ว่างใต้ฝ้า เพราะแบบไฟดาวน์ไลท์ประเภทนี้จะออกแบบมาให้ติดตั้งแบบฝังตัวโคมบางส่วน และสามารถยื่นส่วนหน้าออกมาได้อย่างสวยงาม

Tips การเลือกอุณหภูมิของแสงให้เหมาะกับโคมดาวน์ไลท์

นอกเหนือจากการเลือกประเภทของดาวน์ไลท์ให้เหมาะสมกับการใช้งานแล้ว แสงยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่มีผลเป็นอย่างมากต่ออารมณ์ ความรู้สึก และการใช้งาน โดยสามารถแบ่งได้ 4 กลุ่มตามอุณหภูมิของแสง ได้แก่ Warm White, Natural White, Cool White และ Daylight โดยมีทริกการเลือกใช้ง่าย ๆ ดังนี้

• Warm White มีอุณหภูมิอยู่ 2700 - 3000 เคลวิน เป็นแสงโทนอุ่นออกเหลืองส้ม นิยมใช้ในห้องที่ต้องการความผ่อนคลาย ให้ความรู้สึกอบอุ่น น่าพักผ่อน

• Natural White มีอุณหภูมิหลอดอยู่ที่ 4000 - 5000 เคลวิน ซึ่งเป็นโทนแสงที่มีความใกล้เคียงกับธรรมชาติ ให้ความรู้สึกคล้ายกับแสงแดดมากที่สุด เหมาะกับการใช้งานทั่ว ๆ ไป

• Cool White มีอุณหภูมิหลอดอยู่ที่ 5000 - 6000 เคลวิน เป็นแสงโทนเย็นอมฟ้า ให้ความรู้สึกสะอาดตา ปรับความโมเดิร์นได้แบบองค์รวม เหมาะสำหรับห้องน้ำและห้องครัว
• Daylight มีอุณหภูมิหลอดอยู่ที่ 6000 - 6500 เคลวิน เป็นแสงขาวที่มีความสว่างมากที่สุด และเป็นแสงมาตรฐานที่นิยมใช้งาน ให้ความรู้สึกสบายตา นิยมนำไปติดตั้งในห้องอ่านหนังสือ ห้องทำงาน หรือหน้ากระจก

เทคนิคการจัดแสงไฟภายในบ้านด้วยแบบไฟดาวน์ไลท์

1. ห้องนั่งเล่น/ห้องรับแขก

เป็นห้องที่ใช้สำหรับการพักผ่อนหรือทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัว นอกจากนี้ยังเป็นด่านแรกของบ้านที่ใช้รับรองแขก ทำให้การจัดแสงในโซนนี้ ควรจะต้องใช้ทั้งแสงประดิษฐ์และแสงจากธรรมชาติควบคู่กัน โดยผสมผสานระหว่างโคมฝังเพดานที่กระจายแสงได้กว้าง กับโคมดาวน์ไลท์ที่ติดตั้งเฉพาะจุด เพื่อให้เหมาะต่อการใช้งาน อย่างการอ่านหนังสือ ทำการบ้าน หรือการทำกิจกรรมในครอบครัวต่าง ๆ

2. ห้องรับประทานอาหาร

ควรจัดแสงให้กระจายได้ทั่วห้อง และอาจเสริมการใช้โคมแบบ Task Light เข้ามา เพื่อเพิ่มบรรยากาศและความสวยงาม อีกทั้งยังช่วยตอบโจทย์ในเชิงของการตกแต่งภายใน โดยจะเน้นไปที่อุณหภูมิแสงแบบ Warm White หรือ Natural Light เป็นหลัก เพราะจะทำให้อาหารดูน่ากินมากยิ่งขึ้น

3. ห้องครัว

เช่นเดียวกับห้องอาหารที่ควรเน้นการกระจายแสงให้ทั่วถึง แต่ควรเพิ่มในเรื่องของการจัดวางตำแหน่งของโคมไฟแบบ Task Light เข้าไป เพราะในห้องนี้ไม่ได้ต้องการแค่ความสวยงาม แต่ต้องการความปลอดภัยระหว่างปรุงอาหาร จึงทำให้การจัดไฟเฉพาะจุดเป็นเรื่องสำคัญ ควรอยู่บริเวณที่มีการประกอบอาหาร เช่น ติดไฟเหนือเตา ไฟบริเวณเคาน์เตอร์ เป็นต้น

4. ห้องทำงาน

การจัดแสงโดยใช้แบบไฟดาวไลท์สำหรับห้องทำงาน เป็นองค์ประกอบสำคัญต่อการช่วยรักษาสายตา เนื่องจากการทำงานจะต้องจ้องอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เกือบตลอดทั้งวัน การจัดแสงจึงควรเน้นโคมดาวน์ไลท์แบบเฉพาะจุด ให้แสงสว่างที่ชัดเจน และต้องเป็นโทนสว่างอย่าง Daylight ถึงจะเรียกได้ว่าเพอร์เฟกต์!

5. ห้องนอน

ปิดท้ายกันที่ห้องนอน โซนสำหรับการพักผ่อน ชาร์จร่างกายให้เต็มอิ่มไปด้วยพลังงานจากการนอนหลับที่มีคุณภาพ แสงที่เหมาะสมจึงเป็นแสงแบบ Warm White โทนอุ่นสบายตา โดยอาจมีการติดตั้งควบคู่ไปกับแบบไฟดาวน์ไลท์ที่สามารถปรับลดความสว่างได้อย่างยืดหยุ่น เพื่อป้องกันแสงสว่างที่จ้าเกินไป นอกจากนี้ สามารถเพิ่มแสงใช้งานเฉพาะจุดอย่างโคมไฟหัวเตียง หรือโคมตั้งโต๊ะ เผื่อใช้ในกรณีที่ฉุกเฉินกลางดึกได้อีกด้วย

จบทุกปัญหาแสงที่ไม่เหมาะกับห้อง ด้วยตัวเลือก “โคมไฟดาวน์ไลท์" หลากหลายรูปแบบและดีไซน์ ที่คุณสามารถมาเลือกซื้อได้ที่ Thai Electricity เพราะเรามีผลิตภัณฑ์โคมไฟและหลอดไฟคุณภาพสูงให้เลือกมากมาย

หรือหากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถปรึกษาและพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ได้ผ่านทางออนไลน์ หรือเลือกชมสินค้าจริงได้ที่สำนักงานของเรา บนถนนรามอินทรา กิโลเมตรที่ 10 เดินทางสะดวก มีที่จอดรถ เปิดให้บริการวันจันทร์-วันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 8.30-17.30 น.